แมวไทยมีหลากหลายสายพันธุ์มาก ซึ่งได้รับการยอมรับมากว่าร้อยปีแล้ว แมววิเชียรมาศเป็นแมวไทยโบราณที่มักเลี้ยงกันในวัง ตั้งแต่สมัยอยุธยา
และเป็นแมวมงคลตามตำรา ซึ่งเขียนขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1351 ถึง ปี ค.ศ. 1767
ด้วยความหลากหลายสายพันธุ์ เดิมจึงเรียกง่ายๆว่า แมวสยาม
ในประเทศไทยรู้จักในนามว่า แมววิเชียรมาศ ตรงกับความหมายว่า เพชรแห่งดวงจันทร์
ลักษณะของดวงตาเป็นสีฟ้า รูปทรงคล้ายอัลมอนด์
ลักษณะของส่วนหัว รูปหัวไม่กลม หรือแหลมเกินไป หน้าผากใหญ่และแบน จมูกสั้น หูใหญ่ ตั้งสูงเด่นบนส่วนหัว
ลักษณะเด่นของแมววิเชียรมาศ คือ มีสีน้ำตาลเข้มเกือบทั่วทั้งตัว โดยปกติจะเป็นใบหน้า ส่วนหู หาง และเท้า
ลักษณะของลำตัวจะล่ำสัน และมีหางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง
ลักษณะสีขน ขนสั้นแน่นสีขาว หรือสีน้ำตาลอ่อน มีแต้มสีครั่ง หรือสีน้ำตาลไหม้ที่บริเวณใบหน้า หูทั้งสองข้าง เท้าทั้งสี่ หางและที่อวัยวะเพศ
ดวงตาของแมวจะแตกต่างจากดวงตาของสัตว์ชนิดอื่นๆ เมื่อแสงเข้าสู่ตาแมว มันจะส่องผ่านเรตินา ซึ่งเป็นที่ๆเซลล์รับแสง ส่วนแสงที่เซลล์รับแสงไม่ได้รับเอาไว้ จะถูกส่งไปที่ Tapetum Lucidum และถูกส่งกลับมาที่เรตินา จึงทำให้สามารถมองเห็นตอนกลางคืนได้ดีเยี่ยม
เพราะดวงตาของมันสามารถรับแสงได้มากกว่า ซึ่งสามารถนี้ช่วยในการหาเหยื่อตอนกลางคืนได้ดี นอกจากนั้นแมวยังมีความสามารถในการฟังที่ดีอีกด้วย
แมววิเชียรมาศ โดยเฉลี่ยจะมีอายุประมาณ 12-15 ปี แต่ถ้าหากได้รับการดูแลอย่างดีจะอยู่ได้ถึง 30 ปี ตามที่เคยมีบันทึกไว้
ขณะที่อายุยังน้อย หรือเป็นลูกแมว สีขนจะออกสีครีมอ่อนๆ หรือขาวนวล พอโตขึ้นสีจะค่อยๆ เข้มขึ้นตามลำดับจนเป็นสีน้ำตาล (สีลูกกวาด) ภายใน 4 สัปดาห์
โดยทั่วไปสามารถอยู่ร่วมกับสัตว์อื่นๆได้ดี พวกเขาให้ความสนใจกับสิ่งรอบๆตัวตลอดเวลา พวกเขาไม่ชอบที่จะอยู่ตัวเดียว ดังนั้นจึงนิยมเลี้ยงเป็นคู่มากกว่า
แมววิเชียรมาศ มีชื่อเสียงในด้านการแสดงความรักและชอบเข้าสังคม พวกเขาชอบที่จะคลุกคลีกับมนุษย์ ฉลาดและซุกซน พวกเขามีลักษณะนิสัยที่หลากหลาย บางครั้งพวกเขายังสนใจสิ่งภายนอกอีกด้วย
เสียงของแมวเป็นเรื่องซับซ้อนมาก หนึ่งเสียงที่เราได้ยินกันบ่อยๆคือ เสียงร้องเหมียวๆ เราจึงเรียกแมวว่า เหมียว
ดังนั้นพวกเขาจึงมักต้องการความสนใจด้วยเสียง
แมวชนิดนี้มีลักษณะนิสัยตื่นตัว และขี้เล่น เหมือนกับสุนัข นอกจากนี้ยังชอบอยู่กับคนและชอบร้องเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเจ้าของ